
ถามคนแถวนี้ใครๆ ก็รู้จักป้าภา (วิภาวรรณ สังเกตุ) แม่ค้าร้าน “ปิ้งงบ” ในตำนานที่เปิดขายมารวมแล้วกว่า 60 ปี ไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียงว่าโด่งดังขนาดไหน รายการอาหาร รายการทีวีต่างๆ ล้วนต้องเคยเจอป้าภาแล้วทั้งสิ้น ถึงขนาดที่นักท่องเที่ยวบางคนมาไกลจากกรุงเทพฯ ก็ต้องรีบแวะมาซื้อปิ้งงบของป้าภากินให้ได้ ที่ต้องรีบเพราะคิวแน่นเอี๊ยดคนแถวนี้เขารู้กันดี และบอกเสมอว่า ช้าหมด อดกินแน่นอน
ปิ้งงบในตํานาน
ด้วยความที่ป้าภาเกิดที่เมืองหัวหิน และเติบโตมากับปิ้งงบตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งที่น่าตกใจคือ ร้านปิ้งงบเจ้าแรกในหัวหินสมัยนั้นก็คือร้านนี้ของคุณแม่ป้าภานี่เอง จนตอนนี้ป้าภาก็ได้สืบทอดร้านต่อมาจนถึงทุกวันนี้
“ป้าขายมา 30 กว่าปีแล้ว แต่ถ้านับตั้งแต่สมัยแม่ของป้าด้วยก็ 60 กว่าปีได้ จุดเริ่มต้นที่มาขายปิ้งงบก็คือแม่ของป้านี่แหละ เพราะแม่ทำก่อนเป็นเจ้าแรกในหัวหิน กล้าพูดเลยจริงๆ ว่าบ้านเราคิดค้นสูตรกันมา แต่เราไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ เพราะแต่ก่อนในหัวหินไม่เคยมีแบบนี้เลย และป้าเองตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจที่จะขายด้วย แต่แม่ดันบอกว่าอย่าทิ้ง ก็เลยมาทดลองขายดูทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้อะไรเลย แต่ทำไปทำมา เอ๊า มันดันขายดีเฉย แล้วเราตอนนั้นก็ไม่ได้มีอาชีพอะไรด้วย เลยตัดสินใจมาขายจริงจังตอนอายุ 27 นี่แหละ จนตอนนี้ป้าทำคนเดียวทุกอย่าง ไม่มีใครช่วย” ป้าภาพูดไปหัวเราะไป
“ป้าใช้ปลาอินทรีย์ กับปลาสุกุลเป็นหลัก บอกเลยว่าของป้าเนี่ยสดใหม่ทุกวันเวลาจะไปตลาดป้าก็ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรมาก เพราะเราก็เดินตลาดจนเป็นปกติทุกวัน เดินเข้าตลาดไปก็จ่ายเงินอย่างเดียว เพราะสั่งไว้หมดแล้ว ไปเอาปลา ไปเอาวัตถุดิบเสร็จแล้วก็รีบกลับไปเตรียมของต่อที่บ้าน”


เคล็ดลับความอร่อย
เวลาผ่านมาเนิ่นนาน ปิ้งงบเมื่อ 60 ปี ที่แล้วเป็นอย่างไร ปิ้งงบของป้าภาในตอนนี้ก็ยังคงเป็นแบบเดิมอย่างนั้นไม่มีเปลี่ยน ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ รวมไปถึงกรรมวิธีในการทำ
“ก็นี่มันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านน่ะสิ ย่างเตาถ่านมันหอมกว่าพวกแก๊สเยอะ อันตรายก็น้อยกว่า แถมย่างมาแล้วหอมด้วย ใช่ไหมล่ะ น้ำปลานี่ก็เหมือนกัน มันเกิดมาจากเหงือกปลาทู แล้วก็ไส้นั่นแหละ เราดึงไส้มันออกมา แล้วเอามาซาวกับเกลือ แล้วเกลือเนี่ยก็ต้องเป็นเกลือแบบเม็ดด้วยนะ ซาวๆเสร็จแล้วก็เอาไปหมักใส่โหล เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครทำแล้วเพราะปลาทูมันหายาก”
ด้วยความสงสัยเราเลยถามป้าภาต่อว่าน้ำปลาดิบ กับน้ำปลาแบบขวดที่เราซื้อกันอยู่ตามร้านค้านั้นแตกต่างกันไหม “ทุกวันนี้ป้าก็ยังใช้น้ำปลาดิบอยู่ เพราะมันไม่เหมือนกับน้ำปลาแบบขวดทั่วไป ไม่เหมือนเลย เพราะสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องนู่นนี่เหมือนสมัยนี้ เขาก็เลยใช้โอ่งมังกรกัน ต้องเป็นโอ่งมังกรด้วยนะ ถ้าโอ่งอื่นไม่ได้มันจะเสียของ เอามาใส่กระปุกใส่โหลก็ไม่ได้ พอใส่โอ่งไปแล้วก็ซาวๆเข้าไป ใส่เกลือเม็ดไปแล้วก็ปิดฝาไว้ หมักไว้สัก 3 เดือน ยิ่งหมักนานมันยิ่งหอม ถ้าหมักแปปเดียวเหงือกมันจะยังไม่ยุ่ย ใช้ไม่ได้ ซึ่งการห่อตัวงบมันก็ต้องใช้ใบตองแบบนี้นี่แหละ รูปแบบนี้แบบเดียวเลย พวกห่อหมกมันก็ต้องใช้ใบตองเหมือนกันหมด”


กว่าจะได้กินต้องอดทนรอ
นั่งคุยไปสักพักจนได้รู้ถึงที่มา และกระบวนการต่างๆแล้ว กลิ่นหอมๆ ก็ลอยมาเตะจมูกพวกเราจนท้องหิว เพราะปิ้งงบที่ป้าภากำลังทำให้เราตั้งแต่ตอนมาถึงเริ่มจะสุกได้ที่พอดี
“ปิ้งงบของป้าเนี่ยแตกต่างกันที่ตัวผัก แต่บอกเลยว่าเด็ดทุกห่อ แล้วแต่คนจะเลือก ผักทั้งบนทั้งล่างเป็นผักเดียวกันในห่อนั้นๆ แต่สมัยนี้เขาทันสมัยกันหน่อยเขาก็เอาพวกไข่แมงดา หรือไข่หมึกไปใส่ มันก็คล้ายๆ ห่อหมกนั่นแหละ แต่ห่อหมกมันเอานึ่ง ปิ้งงบเรามันย่าง แต่พอย่างเนี่ยมันก็จะหอมกว่าห่อหมกเห็นมั้ย” พูดจบป้าภาก็ลุกไปจัดการปิ้งงบหอมๆ มาให้พวกเราได้กินจนได้
“ทุกวันนี้ที่ได้ขายปิ้งงบคงเป็นเพราะดวงมั้ง (หัวเราะ) ก็คนมันชอบไปแล้วอ่ะ สืบทอดมาแล้ว แถมแม่ยังบอกว่าเนี่ยแหละอาชีพเงิน อาชีพรวย เพราะการค้าขายสมัยก่อนมันเจริญรุ่งเรืองดี ยังไงดีกว่าไปเป็นลูกจ้างเขา เพราะขายของบางทีฟลุ๊คก็ดี วันนี้ได้กำไรพันนึง พรุ่งนี้คนมาสั่ง 2,000 – 5,000 เราได้กำไรแล้ว ถ้าเทียบกันแล้วสมัยก่อนป้าขายเยอะกว่านี้มาก เดี๋ยวนี้ตั้งแต่เศรษฐกิจซบเซาก็ลดลงไปเยอะ เทียบง่ายๆ สมมุติ 4 ส่วนก็ยุบไป 2 ส่วน ครึ่งต่อครึ่งเลยแหละ แต่มันก็ยังโอเคไม่ถึงกับแย่ พอขายได้ ไม่ขี้เหร่ เพราะยังไงปิ้งงบป้าภานี่เบอร์หนึ่งอยู่แล้ว” ป้าภาหัวเราะชอบใจ


ปิ้งงบ ป้าภา และหัวหิน
“ตัวป้าผูกพันกับเมืองหัวหินแทบจะทุกอย่างเลยแหละ แต่หัวหินสมัยก่อนเนี่ยอากาศดีกว่านี้เยอะ เดี๋ยวนี้เจริญหมดแล้ว เมื่อก่อนแถวร้าน “เจ๊กเปี๊ยะ” ยังเป็นป่าอยู่เลย สิ่งเก่าๆ มันหายจากไปหมดแล้ว ตามถนน ตามตึกเนี่ยเมื่อก่อนก็เป็นไม้ทั้งนั้นแหละ แถวนี้ก็เปลี่ยนไปหมดเลย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เป็นธรรมดาแหละที่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป แต่ถึงสภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หัวหินของเราก็ยังดูเป็นชุมชน ยังมีคนท้องถิ่นอยู่เสมอนะ ดูอย่างแถวสะพานปลาก็เห็นชัดเลย”
“หาดทรายขาวแบบหัวหินที่อื่นไม่มีนะ ป้าภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนหัวหินเพราะมีพระราชวังสวยงาม สงบเงียบ ปลอดภัย อากาศเย็นสบาย อีกอย่างคนหัวหินก็ใจดีด้วย แล้วอาหารของคนหัวหินก็ขายไม่แพงนะ แล้วที่ดีอีกอย่างคือแถวนี้ไม่ค่อยมีโจร นอกจากนี้ป้าก็ชอบวัฒนธรรมของคนหัวหิน อย่างพวกประเพณีต่างๆ วันสงกรานต์ พวกผีพุ่งใต้ ก่อเจดีย์ทราย ยิ่งถ้าไปเล่นตามชายหาดชายทะเลสมัยก่อนนะสนุกมาก แต่เดี๋ยวนี้เขาเลิกกันหมดแล้ว”
“ส่วนในเมืองนี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของหัวหิน ป้าว่าเวลาคนมาเที่ยวเขาก็ประทับใจ เพราะเที่ยวแล้วเขาสบาย อากาศดี คนใจดีนะ ข้าวของอะไรก็ไม่แพงจนเกินไป อย่างปิ้งงบป้าตอนนี้ขายห่อละ 15 บาท แต่สมัยแม่ป้าตอนนั้นขายห่อละ 3 บาท แล้วก็ขึ้นมาเป็น 5 บาท 7 บาท 10 บาท จนมาเป็น 15 บาทเนี่ย ถ้าถามว่าเศรษฐกิจนี่มันเกี่ยวไหมบอกเลย “เกี่ยว” โดยเฉพาะโควิดนี่แหละตัวดี” พูดจบป้าภาลุกไปเอาปิ้งงบที่ย่างอยู่มาให้อีกคนละอัน


Add Comment